รากฟันเทียม ALL ON 4 ทดแทนฟันทั้งขากรรไกรให้พร้อมใช้งานได้ทันที
รากฟันเทียม All on 4 คืออะไร ?
รากฟันเทียม All on 4 คือการรักษาด้วยปักรากฟันเทียมลงไป 4 ตัวใน 1 ขากรรไกร (บน หรือล่าง) แล้วนำสะพานฟันมายึดกับรากฟันเทียมทั้ง 4 ตัวนั้น คนไข้จะมีฟันเต็มปากเหมือนเดิมและใช้งานได้อย่างฟันธรรมชาติ


รากฟันเทียม All on 4 เหมาะกับใคร ?
ขั้นตอนการรักษาด้วยรากฟันเทียม ALL-ON-4
-
การประเมินก่อนฝังรากฟันเทียม
: ก่อนเริ่มการรักษา ทันตแพทย์จะซักประวัติ ตรวจสุขภาพเหงือก ประเมินกระดูกรองรับฟัน ร่วมกับการสแกนช่องปากด้วยการเอกซเรย์ (X-RAY) เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ 2 มิติ (Panoramic Radiograph) หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ 3 มิติ (CT SCAN) เพื่อดูปริมาณกระดูก อวัยวะสำคัญ และตำแหน่งของเส้นประสาทที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนการฝังรากเทียม
-
ขั้นตอนการฝังรากฟันเทียม
: ทันตแพทย์จะทำการฝังรากฟันเทียมโดยยึดตาม CT Guided Surgery มีการออกแบบรอยยิ้มด้วยเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ Smile Design ทั้งแบบ 2D และ 3D เพื่อกำหนดตำแหน่งการฝังรากเทียม ซึ่งทันตแพทย์จะเจาะรูบริเวณเหงือกลึกลงไปถึงขากรรไกรเพื่อให้เกิดช่องว่างสำหรับการฝังรากเทียมแบบ ALL-ON-4 โดยจะฝังรากเทียม 2 รากที่ฟันด้านหน้า และ 2 รากที่ฟันซี่สุดท้ายในแนวเอียงเฉียงทำมุม 45 องศา เพื่อให้ครอบคลุมส่วนท้ายของฟันปลอมและเพื่อให้ฐานฟันมีความสมดุล แข็งแรง พร้อมรองรับแรงบดเคี้ยว แม้การวางรากเทียมในแนวปกติจะดีที่สุด แต่ในขากรรไกรบนบริเวณแก้มจะมีไซนัสที่เป็นโพรงอากาศ ซึ่งไม่มีกระดูก แล้วการฝังรากเทียมต้องฝังบริเวณกระดูก ในกรณีที่ผู้ป่วยมีไซนัสใหญ่ โพรงอากาศใหญ่ การฝังรากเทียมจึงจำเป็นต้องฝังให้เอียงเพื่อไม่ให้ทะลุกระดูก ซึ่งการจะฝังตรงหรือเอียงขึ้นอยู่กับการประเมินของทันตแพทย์และสุขภาพของผู้ป่วยเป็นสำคัญ
-
ขั้นตอนการใส่แผงฟันปลอมหรือสะพานฟันบนรากฟันเทียม
: หลังฝังรากฟันเทียมแล้วติดแน่นเรียบร้อยดี ทันตแพทย์จะทำการใส่แผงฟันปลอมหรือสะพานฟันยึดติดบนรากฟันเทียมในวันเดียวกัน ซึ่งวัสดุที่ใช้คืออะคริลิก โดยปรับแต่งให้เหมาะสมกับช่องปากและการสบฟัน หลังจากแผลหายดีแล้วครบ 6 เดือน ทันตแพทย์จะทำการนัดหมายเพื่อตรวจประเมินอีกครั้ง หากผู้ป่วยต้องการเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ให้แข็งแรงเพิ่มขึ้นอย่างอะคริลิกผสมไทเทเนียม หรือเซอร์โคเนีย (Zirconia) สามารถแจ้งทันตแพทย์เพื่อพิจารณาให้เหมาะสมกับการใช้งานและสุขภาพฟัน โดยในระหว่างทำการรักษาหากผู้ป่วยมีความกังวลหรือกลัวความเจ็บปวด ทางโรงพยาบาลมีทางเลือกอื่น ๆ เพื่อช่วยลดความกังวล เช่น ดมยาสลบ การให้ยาทางหลอดเลือดดำ ฯลฯโดยมีวิสัญญีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด




รากฟันเทียม All On 4 มีข้อดีอย่างไร ?
-
ระยะเวลาในการรักษาสั้นกว่าการทำรากเทียมแบบอื่นๆ
-
สามารถใส่รากเทียมได้ตั้งแต่วันแรก
-
สวมใส่ได้สบายและรองรับกับโครงสร้างได้เป็นอย่างดี
-
โครงสร้างของรากเทียม จะมีความแข็งแรงมาก
-
รากฟันเทียมราคาที่ถูกกว่าเทคนิคแบบดั้งเดิม
-
ประหยัดเวลาและค่ารักษา ลดความจำเป็นในการปลูกถ่ายกระดูก
-
ดูแลรักษาง่าย เหมือนฟันธรรมชาติ
วิธีการดูแลตัวเองหลังทำ
-
ควรทำความสะอาดด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
-
ควรทำความสะอาดด้วยไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 – 2 ครั้ง
-
ควรทำการบ้วนปากด้วยน้ำยาผสมฟลูออไรด์ก่อนนอนทุกวัน โดยทำกลั้วน้ำยาและอมไว้ในปากอย่างน้อย 1 นาที และไม่ควรดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารภายใน 30 นาทีหลังการบ้วนปาก
-
ไม่ควรเคี้ยวอาหารที่มีความแข็งมากจนเกินไป เนื่องจากจะเป็นการทำลายรากฟัน
-
พบทันตแพทย์ตามนัดทุกครั้ง และควรพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน





